#อัปเดต วันที่ 19 ธันวาคม 2564 เวลา 14.30 น.
กรณีมีแก๊งค์ลักเด็กเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 15.00 น.มีเหตุคนร้ายขับรถตู้สีขาว ยี่ห้อฮุนได ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าไปในพื้นที่บ้านกำปงบือแน หมู่6 ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เขตรอยต่อหมู่3 บ้านดอเหะ - หมู่6 บ้านกำปงบือแน หน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลังเก่า โดยพฤติกรรมของคนร้ายได้เข้ามาจับตัวเด็กชายอายุ 4 ปีไปขึ้นรถจักรยานยนต์แต่โชคดีพี่สาว อายุ 13 ปีช่วยไว้ได้ทัน
นายไซดอิบราฮิม กูมูดอ พ่อของเด็กที่ถูกคนร้ายเข้ามาลักพาตัว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. โดยระบุว่า วันนี้ตนเองและครอบครัวนั่งดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน และได้มีญาติเดินทางมาเยี่ยม จึงเตรียมแผนทำส้มตำเลี้ยงญาติๆ แต่มะละกอที่บ้านมีลูกเดียว บุตรสาวอายุ 13 ปีจึงชวนแม่ไปเก็บมะละกอที่ฝั่งตรงข้ามใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ห่างไปประมาณ 50 เมตร แต่แม่ให้ชวนน้องอายุ4 ปีไปแทนเพราะเห็นว่าส่วนว่าใกล้บ้าน
ระหว่างที่ 2 พี่น้องเดินออกไปนั้นได้เห็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คันจอดอยู่บนถนนห่างจากหน้าบ้านไปเล็กน้อย และถัดออกไปด้านหน้าของรถจักรยานยนต์มีรถตู้ฮุนไดสีขาวจอดรถและเปิดประตูไว้ โดยรถทุกคันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขณะนั้นชายวัยรุ่นรูปร่างผอมได้นำขนมที่แขวนไว้หน้ารถมายื่นให้เด็กชายที่เดินนำหน้าพี่สาว แต่พี่สาวไม่ให้รับ น้องชายตอบกลับพี่สาวไปว่า เค้าจะให้ขนมทำไมไม่ให้รับ จังหวะนั้นชายคนดังกล่าวได้ดึงมือน้องชายไว้ และ เดินเข้าหาตัวพี่สาว โดยในมือมีผ้าเช็ดหน้า1ผืนซึ่งมีกลิ่นเหม็นฉุน พี่สาวที่กำลังตกใจจึงหยิบไม้ใกล้มือมาตีคนร้ายจนเสียหลักล้มลง และไปตีชายรูปร่างอ้วนที่นั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้เด็กได้เห็นบุคคลที่นั่งอยู่ภายในรถตู้ฮุนไดด้วยโดยระบุว่าแต่งกายภูมิฐาน มีการนำธนบัตร 1,000 บาททำทีมาถือให้เห็นด้วย
หลังจากดึงมือน้องมาจากคนร้าย ซึ่งแทนที่จะวิ่งกลับบ้าน ก็ยังวิ่งข้ามถนนไปเก็บมะละกอด้วยความตกใจ โดยจังหวะนั้นพี่สาวร้องไห้และร้องขอความช่วยเหลือ ญาติที่บ้านได้ยินเสียง และคนแถวนั้นที่นอนอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินเสียง แต่เข้าใจว่าเด็กๆเล่นแล้วทะเลาะกันจึงไม่ได้ออกมาดู อีกทั้งฝั่งที่ไปเก็บมะละกอ ซึ่งมีญาติอยู่อีกคนเด็กก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ญาติก็ไม่ได้สนใจเข้าใจว่าเด็กมาล้อเล่น
จนกระทั่งทั้งสองคนหิ้วมะละกอ 2 ลูกพร้อมทั้งร้องไห้กลับมาบ้าน แล้วเล่าให้พ่อแม่ฟัง จังได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตรวจสอบ และทราบว่ารถตู้ฮุนไดเข้ามาวนเวียนในพื้นที่หลายวันแล้ว แต่เข้าใจว่าเป็นบุคคลภายนอกที่ต้องการมาหาหมอบ้านเพื่อรักษาอาการป่วยจึงไม่ได้ติดใจ
เหตุการณ์ครั้งนี้ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ทำให้คนในครอบครัวเสียขวัญมาก เพราะหากคนร้ายสามารถนำลูกของตนทั้ง2คนไปได้ ไม่รู้ว่าลูกต้องไปเผชิญชะตากรรมอย่างไร และพ่อแม่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรถ้าต้องสูญเสียลูกไปแบบนี้ ที่ผ่านมา ญาติที่ปัตตานีก็โทรมาเตือน และเห็นข่าวในต่างพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวของตน ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว และกรณีเมื่อเด็กร้องไห้หรือร้องขอความช่วยเหลืออยากให้ออกมาดูให้แน่ใจว่าเป็นการเล่นกัน หรือมีเหตุการณ์คนร้ายลักเด็กในลักษณะนี้เกิดขึ้น
ด้านนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี กล่าวว่า
หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดคุ้มครองตำบลตั้งจุดตรวจจุดสกัด พร้อมตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลเพื่อติดตามคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคนร้าย
ทั้งนี้เบื้องต้นได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตรวจตราสอดส่องบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาภายในหมู่บ้าน ตำบลของตนอย่างเข้มงวด และขอเตือนผู้ปกครองในพื้นที่ให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และให้ความรู้กับเด็ก โดยเฉพาะการไม่รับเงิน ขนม หรือสิ่งของจากคนแปลกหน้า และห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันเหตุลักเด็ก และหากพบพฤติกรรมผิดสังเกตให้รีบเข้าบ้านและเเจ้งผู้ปกครองทันที