Ad

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

คลิปวินาทีปะทุเดือด ที่ ต.มะรือโบตก







เมื่อเวลา15.30 น.28 ม.ค.65

จนท.นปพ.ร่วม นราธิวาส, ชุดสืบสวน

คดีความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส 

ร่วมกับ ฉก.ทพ.45 เข้าบังคับใช้ปิดล้อม

ตรวจค้นในพื้นที่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ 

จ.นราธิวาส  เกิดการปะทะ ผกร. 

เบื้องต้น จนท.ได้รับบาดเจ็บ  1นาย  และคู่กรณีเสียชีวิต 2 นาย

เหตุเกิดบริเวณ บ้าน บาโงระนะ 

ม.5   ต.มะรือโบตก   อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565

คืบหน้าปิดล้อมพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กองกำลังติดอาวุธเสียชีวิต 2 จนท.เจ็บ 1



       เมื่อวันที่ 20 มกราคม 65 เวลา 06.30 น. พ.อ.ทวีพร คณะทอง หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษร่วมปัตตานีได้นำกำลัง ทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ที่ 2 ตำบลละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีบุคคลต้องสงสัย จำนวน 2 คนเข้ามาขอหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมบ้านลักษณะเป็นปูนชั้นครึ่ง และได้ตะโกนให้คนภายในบ้านออกมาแสดงตัว กระทั่งมีเจ้าของบ้านและครอบครัวต่างวิ่งหนีออกมาตรงออกมาหาเจ้าหน้าที่ และเมื่อทำการสอบถามทราบว่า ยังมีผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คนยังหลบอยู่ภายในบ้าน 


จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น. กองกำลังติดอาวุธทั้งสองคนได้กระโดดออกจากหน้าต่างข้างบ้านพร้อมกับใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังจะเปิดทางถ่อยออกจากพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปิดล้อมต้องหลบคมกระสุนพร้อมกับยิงตอบโต้ จนเกิดการปะทะกันขึ้นเสียงปืนดังสนั่น ผลปรากฏว่าทั้งสองคนถูกวิสามัญเสียชีวิตทันที 2 คน ทราบชื่อ 

1.มัรวาน บิน อาหมัด (นายมารวาน  มีทอ)

2.รอซาลี บิน อับดุลเลาะ (นายรอซาลี เจะเลาะ)


จากการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้ พอ.ทวีพร คณะทอง เปิดเผยว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังคงใช้มาตราการณ์จากเบาไปหาหนัก โดยการเจรจาเป็นหลัก ตามนโยบายที่ทางแม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำเพื่อลดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการปฏิบัติในครั้งนี้ ทุกฝ่ายรวมไปถึงผู้นำท้องที่ผู้นำศาวนาก็มีความพยายามที่จะเกลี้ยงกล่อมให้ผู้ต้องหาทั้งสองออกมามอบตัวเพื่อออกมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ผู้ต้องหาต่อสู้โดยการกระโดดหน้าต่างพร้อมกับใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้มีการตอบโต้จนผู้ต้องหาเสียชีวิตและมีเจ้าหน้าที่ได้ระบยาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย




วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565

เกิดเหตุระเบิดรถตำรวจ สภ.จะแนะ



เมื่อ 181545 ม.ค. 65 สภ.จะแนะ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จะแนะ ขณะกำลังออกปฏิบัติหน้าที่สืบสวนอาชญากรรมในพื้นที่ โดยใช้ยานพาหนะรถยนต์หุ้มเกราะของทางราชการ จำนวน 2 คัน ไปตามทางบนถนนสายจะแนะ-ดุซงญอ ม.2 ต./ อ.จะแนะ จว.นราธิวาส เมื่อมาถึงบริเวณก่อนถึงทางแยกเข้าหมู่บ้าน บ.ตือกอ อ.จะแนะ จว.นราธิวาส ห่างจากที่ตั้ง สภ.จะแนะ ประมาณ 2 กม. ได้มีคนร้ายลอบวางระเบิดไว้บริเวณเสาไฟฟ้าข้างทางแล้วกดชนวนระเบิด ขณะรถยนต์คันที่ 1 เคลื่อนที่ผ่าน เป็นเหตุให้เกิดระเบิด เบื้องต้น จนท.ตร. ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ยานพหานะได้รับความเสียหายบางส่วน รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

เหตุเกิด บริเวณ ทางเข้า บ.ตือกอ ม.7 ต./อ.จะแนะ จว.นราธิวาส 


วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2565

โต๊ะคุยเจรจาระหว่างบีอาร์เอ็น และรัฐบาลไทย ตกลง 3 ประเด็นสารัตถะการพูดคุย

การเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการครั้งที่สามระหว่างแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN) และรัฐบาลไทย (RTG) ในการแก้ไขความขัดแย้งปาตานีเกิดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม พ.ศ. 2565 นายตันศรีอับดุลราฮิม โมฮัมหมัด นูร์ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเป็นตัวแทนของรัฐบาลมาเลเซีย

หลังจากชะงักงันเพราะการระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 2563 การเจรจาสันติภาพ หรือ สันติสุข ระหว่างรัฐไทยและบีอาร์เอ็นมีความคืบหน้าที่สำคัญเมื่อทั้งสองฝ่ายนัดหมายพบปะกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี และนับเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขชายแดนภาคใต้ของไทยเปิดเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลไทยกับบีอาร์เอ็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563.



การเจรจาครั้งนี้มีคณะผู้แทนจากบีอาร์เอ็น นำโดย อนัส อับดุล ราห์มาน จนถึงคณะผู้แทนจากรัฐบาลไทย นำโดย พลเอกวัลลภ รักเสนาะ พร้อมกันยังได้รับการตรวจสอบจากผู้สังเกตการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ 2 คน ได้แก่ Jonathan Powell จากสหราชอาณาจักร และ Siri Skate จากนอร์เวย์

สรุปจากแถลงการณ์การเจรจาครั้งนี้ ตัวแทนของทั้งสองฝ่าย บีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทยได้บรรลุข้อตกลง ที่มาจากคำแถลงข่าวกับสื่อมาเลเซียซึ่งคำแถลงการณ์ของบีอาร์เอ็นได้แปลโดยฮาร่า ชินทาโร่ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามลายูชาวญี่ปุ่น ดังต่อไปนี้



1. ตกลงกันที่จะพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสารัตถะ (substantive issues) ที่ได้ส่งไปยังฝ่ายผู้อำนวยความสะดวกล่วงหน้าเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2021 (ประเด็นเหล่านี้) เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขทางการเมือง (political solution) การรับฟังความเห็นสาธารณะ (public consultation) และการลดการใช้ความรุนแรงของทั้งสองฝ่าย


2. ตกลงกันที่จะให้มี agreement (ข้อตกลง) เกี่ยวกับหลักการทั่วไปในการเจรจาสันติภาพระหว่างบีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ 


3. ตกลงที่จะกำหนดข้อกำหนด (TOR, terms of reference) และวิธีการต่าง ๆ นำมาใช้ในการปฏิบัติ (implementation) ภาคสนามในอนาคต


4. ตกลงกันที่จะสร้าง Joint Working Group (JWG, คณะทำงานร่วม) ระหว่างบีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทยภายใต้การดูแลของกองเลขานุการ (secretariat) ผู้อำนวยความสะดวก.


.

สามประเด็นสารัตถะและเอกราชปาตานี


ผู้สื่อข่าวมาเลเซียได้ถามคำถาม เกี่ยวกับประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยและถกแถลงหลักการที่จะยึดถือในการพูดคุยสารัตถะในระยะต่อไปจำนวน 3 เรื่อง คือ 1.ลดความรุนแรง 2.การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ และ 3.แสวงหาทางออกทางการเมือง


ด้านตัวแทนบีอาร์เอ็นได้ให้ความเห็นว่าแนวทางแก้ไขทางการเมือง (political solution) กับการมีส่วนร่วม (participation) เป็นประเด็นหลักในการเจรจาครั้งนี้

“ ประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นหลักที่สำคัญที่พวกเราพูดคุยกับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับเรื่องการปกครองที่จะถูกจัดขึ้นที่ปาตานี แต่เรายังไม่ได้พูดคุยว่า ระบบการปกครองนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร” นายอานัส กล่าว แปลโดยฮาร่า ชินทาโร่  


ทั้งนี้บีอาร์เอ็นได้ให้ความเห็นต่อประเด็นการลดการใช้ความรุนแรงว่าหลังจากริเริ่มการเจาจาในปี 2020 สถิติเหตุรุนแรงก็ลดลงมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากบีอาร์เอ็นประกาศการยุติปฏิบัติการฝ่ายเดียวเมื่อเดือนเมษายน 2020 สถิติการใช้ความรุนแรงก็ลดลงอย่างประจักษ์  


“บีอาร์เอ็นลดปฏิบัติการทางการทหารเพื่อแสดงความเคารพต่อคำร้องขอจากเลขาธิการสหประชาชาติ (ที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงทั่วโลกเพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด) และพวกเราก็ใส่ใจต่อการใช้ชีวิตของประชาชนปาตานีที่ต้องประสบกับสถานการณ์การระบาดโควิดที่ส่งผลกระทบอันหนัก ดังนั้นบีอาร์เอ็นตัดสินใจเพื่อยุติปฏิบัติการทุกรูปแบบที่อาจจะส่งผลเชิงลบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน” 

“พวกเราไม่เรียกการยุติปฏิบัติการทางการทหารเป็นการหยุดยิง (ceasefire) แต่บีอาร์เอ็นจะยุติการโจมตี อย่างไรก็ตาม หากกองกำลังของบีอาร์เอ็นถูกโจมตี พวกเราก็จำเป็นต้องตีกลับ” นายอานัสระบุ

คำถามเรื่องเอกราชนั้นยังคงเป็นนัยยะสำคัญของบีอาร์เอ็นซึ่งได้ให้ความคิดเห็นต่อผู้สื่อข่าวในวันแถลงข่าวว่า “เรื่องของเอกราชนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องต่อสู้ แต่นั่นคือสิทธิของประชาชาติทุกประชาชาติ” นายอานัสตอบ.



#Rundingan

#BRN #RGT

#Wartani_NEWS #PATANI 

---------------------------------------------------------------

Let us be the witnesses for peace in PATANI // ร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อสันติภาพ ณ ปาตานี // Bersama kita menjadi saksi demi kedamaian di PATANI

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

ตร.ยิงวัยรุ่นบาดเจ็บ 2 ราย ด้านผู้การนราธิวาสเผยตั้งข้อหาพยายามฆ่า



จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่ภาพข่าวเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์ของชาวบ้าน เหตุเกิดช่วงเวลา 02.00 น.ของวันที่ 9 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ทำให้วัยรุ่นอายุ 18 ปีและ 21 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังถูกระบุว่าอาจเป็นการยิงจากเจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านตรวจและจุดสกัดใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ไปตั้งเเคมป์ปิ้งบริเวณอ่างน้ำเก็บน้ำบ้านพิกุลทอง ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ก่อนเกิดเหตุวัยรุ่นได้ขับรถยนต์ออกไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่จำนวน 2 นาย เเต่งกายนอกเครื่องเเบบได้เรียกให้จอดรถ เเต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ได้จอด เพราะเข้าใจผิดคิดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ จึงทำให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องเเบบสาดกระสุนใส่รถยนต์ ทำให้วัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทั้งยังระบุว่าอาการสาหัส

ทั้งนี้จากข้อมูลสรุปเหตุการณ์ประจำวัน งานการข่าว ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) ประจำวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.65 ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ตำรวจ สภ.ตันหยง อ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ 2 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บท - 1646 ปัตตานี เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้าน บ้านกำแพง หมู่ 2 ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส โดยรถยนต์คันดังกล่าวมี นายฟิรฮาน ลาเต๊ะ อายุ 20 ปีเป็นผู้ขับขี่ มีพรรคพวกนั่งมาในรถอีก 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายนิอัลฟาร์ เจ๊ะนิ อายุ 18 ปี และนายฮานาฟี มะตาเฮ อายุ 21 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย พบว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายที่นอนรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อาการปลอดภัยแล้ว ขณะที่ทางด้าน นายอาซือมิง เจ๊ะนิ อายุ 49 ปี บิดาของนายนิอัลฟาร์ เจ๊ะนิ เปิดเผยว่า ปกติแล้วเด็กๆชอบไปตั้งแคมป์ตามประสาเด็กวัยรุ่นทั่วไป โดยในคืนเกิดเหตุ เด็กๆพากันไป 10 กว่าคน มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายด้วย และเวลาประมาณ 02.00 น. เด็กๆต้องการไปซื้อของกินที่เซเว่น ระหว่างนั้นได้มีตำรวจโบกรถให้จอดแต่ก็ไม่กล้าจอดเพราะคิดว่าเป็นโจร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าไป 1 นัดเพราะต้องการให้รถจอด เมื่อคนขับได้ยินเสียงปืนก็ยิ่งเหยียบคันเร่งไปอีก ตำรวจก็เลยไล่ตาม 

ทางด้าน พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า หลังทราบเหตุ ตนเองได้เข้าไปสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ที่ สภ.ตันหยง โดยได้สั่งการให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.ตันหยง ได้รับแจ้งว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง จึงได้นำกำลังจำนวน 3 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจสอบ ได้พบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บท - 1646 ปัตตานี  ขับผ่านมา จึงได้โบกเพื่อให้จอดเพื่อจะขอตรวจสอบ แต่รถกระคันดังกล่าวได้เหยียบคันเร่งหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับไล่ตามรถคันกล่าวไปจนถึงบ้านคีรี หมู่ที่ 10 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซ้อนท้ายอยู่จึงได้ใช้อาวุธปืน M 16 หวังยิงล้อรถกระบะ แต่วิถีกระสุนได้แฉลบขึ้นและไปถูกกระจกหลัง ซึ่งมีวัยรุ่นนั่งรวมกันมา 5 คน โดยกระสุนได้ถูกนายนิอัลฟาร์ เจ๊ะนิ อายุ 18 ปี และนายฮานาฟี มะตาเฮ อายุ 21 ปี ที่นั่งอยู่ภายในแค็ปหลังคนขับ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนขับจะจอดรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบ ก่อนให้คนขับนำเพื่อนที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนราธิราชนครินทร์ ส่วนอีกสองคน เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวน 

“ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเข้าใจผิดระหว่างทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายแต่งกายนอกเครื่องแบบ ทำให้วัยรุ่นเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นโจรที่ตามไล่ยิง ส่วนตำรวจเองก็เข้าใจว่าวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ค้ายาเสพติดตามสายข่าวที่แจ้งมา” 

อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ยึดอาวุธปืน M 16 จำนวน 1 กระบอกพร้อมปลอกกระสุน 1 ปลอก รวมทั้งรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ และรถยนต์ของผู้เสียหายนำไปตรวจสอบวิถีกระสุนอย่างละเอียด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายถูกตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น แต่จะเจตนาหรือไม่นั้นต้องอยู่ที่การสอบสวนถึงที่สุดต่อไปก่อน ขณะเดียวกันในส่วนของผู้เสียหายจะต้องมีการเยียวยาตามความเหมาะสมเช่นกัน






วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2565

กราดยิงรถเยาวชน เเคมป์ปิ้ง บาดเจ็บสาหัส 2 คน



เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2565 กลางดึกของเวลาประมาณ 01.00 ได้เกิดเหตุกราดยิงรถยนต์ เยาวชน บาดเจ็บ 2 นาย
สืบเนื่องจากเวลาดังกล่าว เเหล่งข่าวได้เล่าเรื่องให้กับสำนักสื่อ Wartani เยาวชนได้ไปเเคมป์ปิง พอถึงเวลากลางดึกได้ขับรถยนต์ออกไป เพื่อไปซื้ออาหารที่ 7-11 (เซเว่น) เเละเมื่อถึงที่เกิดดเหตุมีเจ้าหน้าที่จำนวน 6-7 คน เเต่งกายนอกเครื่องเเบบได้เรียกให้จอดรถ เเต่เยาวชนไม่ได้จอด เพราะกลัวเข้าใจผิดคิดว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ จึงทำให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องเเบบสาดกระสุนใส่รถเยาวชนดังกล่าว เเละทำให้เยาวชนไปรับบาดเจ็บสองคน
ทราบชื่อ
1.ฮานาฟี มะตาเห อายุ 22
2.นิอัลฟา เจ๊ะนิ อายุ 19 ปี
ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุเกิด ณ. ที่ บริเวณ อ่างเก็บน้ำ พิกุลทอง อ.เมือง นราธิวาส
ทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาตันหยง จังหวัด นราธิวาส
เเละขณะนี้เยาวชนผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์


วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565

รับแจ้ง มีเหตุ ยิง กำนันตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

  


รายงานเหตุเบื้องต้น

เหตุ   241

เมื่อ 071845 ม.ค.65 สภ.สายบุรี รับแจ้งจาก รพ.ยุพราชสายบุรี ได้รับผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายอดุลย์ ฮารีบิน (สว.กำนันตะบิ้ง) รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบ

เหตุเกิด บริเวณบ้านเจาะกือแย ม.3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จว.ปัตตานี 


วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2565

คลิปวินาที เหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ชุดทหารพรานที่ 4304 เดินทางด้วย รยบ.ขนาดกลาง (6 ล้อ) เพื่อมารับสป .3

     เมื่อ 7 ม.ค.65 เวลาประมาณ 09.00 น ได้เกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ชุดทหารพรานที่ 4304 เดินทางด้วย รยบ.ขนาดกลาง (6 ล้อ) เพื่อมารับสป .3 ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร เหตุเกิดบริเวณ ทล.418 จากวงเวียนมะพร้าวต้นเดียว ก่อน ถึงแยกดอนยางประมาณ 1 กม.(ช่วงที่ซ่อมถนน) กำลังพล บาดเจ็บ 3 นาย

     






วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

ชมคลิปวินาที่ ฐานทหารพราน 4513 โดนถล่ม



เหตุ ว.19 จนท.ทพ.

เมื่อ 031245 ม.ค.65 สภ.ระแงะ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบชื่อ และจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ฐาน กองร้อย ทพ.4513 เบื้องต้น จนท.ทพ.ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำส่ง รพ.ระแงะ รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบ

เหตุเกิดบริเวณหน้ากองร้อย ทพ.4513 บ้านลาแป ม.2 ต.บองอ อ.ระแงะ จว.นราธิวาส

 **เพิ่มเติม**

กำลังพลของหน่วยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ดังนี้

1. ส.ต.เอกชัย มูเก็ม (เสียชีวิตที่เกิดเหตุ) ที่อยู่ 402 ถ.ผังเมือง ต.สะเตง อ.เมือง จว.ยะลา

2. อส.ทพ.นันทวัฒน์ ทองใหญ่  (บาดเจ็บ) ที่อยู่ 59 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช

3. อส.ทพ.มงคล  อัญยะประเสริฐ (บาดเจ็บ) ที่อยู่ 153/12 ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส


วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2565

ด่วน ! ลอบยิงฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4513 ฉก.ทพ.45 จากนั้นเกิดปะทะกลุ่มคนร้าย



เมื่อ 3 ม.ค.65 เวลา12.45 น.รับแจ้ง

เหตุ คนร้าย ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด/ขนาด ลอบยิงฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4513 ฉก.ทพ.45 จากนั้นเกิดปะทะกลุ่มคนร้าย 

เบื้องต้น จนท.เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย เหตุเกิดบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4513 พื้นที่ บ.ลาแป ม.2 ต.บองอ อ.ระแงะ จว.น.ธ. พิกัด 47NRG0339185556 

หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแต้งให้ทราบต่อไป